ธุรกิจของท่านเหมาะกับระบบอีอาร์พีแบบไหน
สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาระบบอีอาร์พี หรือองค์กรที่กำลังขยายตัว อาจจะยังมีความลังเลไม่แน่ใจว่าระบบอีอาร์พีนั้นจะเหมาะกับองค์กรตนเองหรือไม่
สำหรับในบทความนี้ผู้เขียนจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคำถามที่ว่า ระบบอีอาร์พีเหมาะกับธุรกิจแบบใด เพื่อให้ผู้ที่กำลังมองหาระบบอีอาร์พีได้สามารถนำข้อมูลนี้กลับไปวิเคราะห์องค์กรของตนเองได้ว่าควรจะวางระบบอีอาร์พีดีหรือไม่ (Click เพื่ออ่านต่อ 5 คำถามยอดฮิต! เกี่ยวกับการวางระบบอีอาร์พี (ERP) มีอะไรบ้าง )
ซึ่งเนื้อหาในบทความนี้จะประกอบด้วย
1. ประเภทของธุรกิจที่ใช้ระบบอีอาร์พี
2. ความแตกต่างของโมดูลต่างๆ ที่ต้องใช้
3. ความแตกต่างของราคาในการวางระบบอีอาร์พี
โดยรายละเอียดของแต่ละข้อมีดังนี้คือ
1. ประเภทของธุรกิจที่ใช้ระบบอีอาร์พี
สำหรับองค์กรทางธุรกิจที่มีการวางระบบอีอาร์พีนั้นจะแบ่งธุรกิจเป็น 2 ประเภทคือ
1.1 ธุรกิจที่มีระบบผลิต
1.2 ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิต
ในธุรกิจทั้ง 2 ประเภทนี้จะอธิบายให้เข้าใจได้พอสังเขปดังนี้คือ
1.1 ธุรกิจที่มีระบบผลิต
เป็นธุรกิจที่มีกระบวนการผลิตสินค้า เช่น การผลิตเครื่องจักร, การผลิตสินค้าอุตสาหกรรม, หรือการผลิตสินค้าอาหาร
ธุรกิจที่มีระบบผลิตนี้เมื่อมีการวางระบบอีอาร์พีจะต้องวางระบบโดยมีโมดูลผลิตด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกผู้ให้บริการอีอาร์พีที่ระบบอีอาร์พีมีความแข็งแกร่งในโมดูลผลิต
1.2 ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิต
ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตนี้จะเป็นธุรกิจที่ให้บริการ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจค้าส่ง เป็นต้น
ซึ่งธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตก็จะมี transaction ฝั่งซื้อ ฝั่งขาย คลังสินค้า เป็นจำนวนมาก ในบางองค์กรอาจมีการ process เอกสารเป็นหลักพันเอกสารหรือหลักหมื่นก็มี
2. ความแตกต่างของโมดูลต่างๆ ที่ต้องใช้
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นทั้งธุรกิจที่มีระบบผลิตและไม่มีระบบผลิตก็จะมีความแตกต่างกันในการเลือกโมดูลของระบบอีอาร์พีมาใช้งานอาทิเช่น
ธุรกิจที่มีระบบผลิต จะต้องการโมดูลสำหรับจัดการระบบผลิตด้วย รวมถึงโมดูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการดำเนินงาน เช่น โมดูลจัดซื้อ โมดูลขาย โมดูล HR โมดูลจัดการคลังสินค้า โมดูลบัญชี เป็นต้น
ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิต จะไม่จำเป็นต้องใช้โมดูลผลิต แต่ก็ยังคงต้องใช้โมดูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการดำเนินงาน เช่น โมดูลจัดซื้อ โมดูลขาย โมดูล HR โมดูลจัดการคลังสินค้า โมดูลบัญชี เป็นต้น (Click เพื่ออ่านต่อ ระบบ ERP เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างไร)
ดังนั้นในการวางระบบอีอาร์พีสำหรับธุรกิจทั้งแบบมีระบบผลิตและไม่มีระบบผลิต จะแตกต่างกันตรงที่ ธุรกิจที่มีระบบผลิตจะต้องใช้โมดูลผลิต ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตก็ไม่จำเป็นต้องใช้โมดูลผลิตนั่นเอง
3. ความแตกต่างของราคาในการวางระบบอีอาร์พี
จากความแตกต่างของการใช้โมดูลต่าง ๆ ของธุรกิจที่มีระบบผลิตและไม่มีระบบผลิตนั้น ทำให้งบประมาณในการวางระบบอีอาร์พีแตกต่างกันด้วย
กล่าวแบบง่าย ๆ คือ ธุรกิจที่มีระบบผลิตจะต้องมีโมดูลผลิตเพิ่มเข้ามา และโมดูลอื่น ๆ ที่ใช้สำหรับบริหารจัดการองค์กรก็ยังคงต้องมีอยู่
แต่สำหรับธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตนั้น ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้โมดูลผลิต จึงทำให้ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตใช้งบประมาณในการวางระบบอีอาร์พีน้อยกว่าธุรกิจที่มีระบบผลิตนั่นเอง
กล่าวโดยสรุป ในการวางระบบอีอาร์พีจะแบ่งธุรกิจเป็นสองประเภทคือธุรกิจที่มีระบบผลิตและธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิต
ซึ่งธุรกิจทั้งสองแบบนี้จะมีความต้องการโมดูลใช้งานที่แตกต่างกัน
ธุรกิจที่มีระบบผลิตจะต้องใช้โมดูลผลิตด้วย ธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตก็ไม่ต้องใช้โมดูลผลิต ส่งผลให้งบประมาณในการวางระบบอีอาร์พีแตกต่างกันคือ ธุรกิจที่มีระบบผลิตจะงบประมาณสูงกว่าธุรกิจที่ไม่มีระบบผลิตนั่นเอง
มาถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านก็น่าจะพอมองออกแล้วว่าองค์กรของท่านเป็นธุรกิจประเภทใด และเหมาะกับการวางระบบอีอาร์พีแบบไหน ที่จะทำให้องค์กรของท่านสามารถบริหารจัดการได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Click เพื่ออ่านต่อ ธุรกิจขนาดเล็กจะใช้ระบบอีอาร์พีได้หรือไม่)
ต้องการติดต่อนัดเดโม
โทร 02-271-4362 – 3 ,095-294-5693 (คุณเจน)
Line ID: jane-siriwan (คุณเจน)