ระบบ ERP แบบไหน ที่ผู้ประกอบการไม่ควรใช้

การเลือกใช้ระบบ ERP นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การเลือกระบบที่ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรระมัดระวังในการเลือกใช้ระบบ ERP และหลีกเลี่ยงระบบที่มีลักษณะดังต่อไปนี้: 

1. ระบบที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจ

  • ระบบมาตรฐานเกินไป: หากระบบ ERP ที่เลือกมาไม่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับกระบวนการทำงานเฉพาะของธุรกิจได้ อาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานและสูญเสียประสิทธิภาพไป 
  • ระบบขาดโมดูลสำคัญ: การขาดโมดูลที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ เช่น การจัดการคลังสินค้า การผลิต หรือการเงิน อาจทำให้ต้องใช้ระบบอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งอาจเกิดปัญหาในการเชื่อมต่อและเพิ่มต้นทุน 
  • ระบบไม่รองรับการเติบโต: หากธุรกิจมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอนาคต การเลือกใช้ระบบที่ไม่สามารถรองรับการเติบโตได้ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบใหม่ในภายหลัง 

2. ระบบที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป

  • ค่าใช้จ่ายในการซื้อ: ราคาของระบบ ERP นั้นค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงงบประมาณที่มีอยู่และเลือกระบบที่คุ้มค่ากับราคา 
  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง: นอกจากค่าใช้จ่ายในการซื้อระบบแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง การปรับแต่ง และการอบรมพนักงาน ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเพิ่มเติม 
  • ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: ระบบ ERP จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาและอัปเดตซอฟต์แวร์อยู่เสมอ ผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาวด้วย 

3. ระบบที่มีความซับซ้อนเกินไป

  • ยากต่อการใช้งาน: หากระบบมีความซับซ้อนเกินไป พนักงานอาจใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับตัวนาน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานได้ง่าย 
  • การบำรุงรักษาที่ยากลำบาก: ระบบที่ซับซ้อนจะต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลและบำรุงรักษา ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงาน  และไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา: ระบบที่ซับซ้อนมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาทางเทคนิคได้มากกว่าระบบที่เรียบง่าย 

4. ระบบที่ไม่มีการสนับสนุนจากผู้พัฒนา

  • การแก้ไขปัญหาที่ล่าช้า: หากระบบเกิดปัญหา ผู้พัฒนาอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก 
  • การอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ไม่สม่ำเสมอ: การไม่ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ อาจทำให้ระบบล้าสมัยและไม่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ 

5. ระบบที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

  • ผู้พัฒนามีประสบการณ์น้อย: ผู้ประกอบการควรเลือกใช้ระบบจากผู้พัฒนาที่มีประสบการณ์และมีความน่าเชื่อถือ 
  • ไม่มีลูกค้ารายอื่นที่ใช้งาน: การไม่มีลูกค้ารายอื่นที่ใช้งานระบบเดียวกัน อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ 

สิ่งที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเลือกใช้ระบบ ERP: 

  • ขนาดและลักษณะของธุรกิจ: เลือกระบบที่เหมาะสมกับขนาดและลักษณะของธุรกิจ 
  • งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระบบ ERP 
  • ความต้องการของผู้ใช้งาน: พิจารณาความต้องการของผู้ใช้งานภายในองค์กร 
  • การสนับสนุนจากผู้พัฒนา: เลือกผู้พัฒนาที่มีการสนับสนุนที่ดีและมีประสบการณ์ 
  • การเปรียบเทียบกับระบบอื่นๆ: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของระบบต่างๆ ก่อนตัดสินใจ 

การเลือกใช้ระบบ ERP ที่เหมาะสมเป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับธุรกิจ การหลีกเลี่ยงระบบที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ มีค่าใช้จ่ายสูง มีความซับซ้อน และไม่มีความน่าเชื่อถือ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน 

Scroll to Top