การเชื่อมต่อปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) มีข้อดีหลายประการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร โดยเฉพาะในบริษัทที่มีเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ที่นำ AI เข้ามาใช้ในการผลิตเพื่อลดจำนวนคนทำงาน และนำระบบ ERP เข้ามาเชื่อมเพื่อส่งข้อมูลคำสั่งในการผลิตกับเครื่องจักรเพื่อลดงานและลดข้าผิดพลาดในการวิเคราะห์ต้นทุน
ซึ่งข้อดีของการเชื่อม AI ในเครื่องจักร เข้ากับระบบ ERP มีทั้งหมดดังนี้:
- การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Improved Production Efficiency)
- การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)
- การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ (Enhanced Decision Making)
- การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง (Adaptability to Changes)
- การเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Improved Product Quality)
- การประหยัดต้นทุน (Cost Savings)
ซึ่งทั้ง 7 หัวข้อมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Improved Production Efficiency): AI และ ERP สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรและกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ เพื่อค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดเวลาในการทำงานและลดการใช้ทรัพยากร ซึ่งเมื่อใช้ API เชื่อมข้อมูลทั้ง 2 เข้าด้วยกันทำให้เสริมประสิทธิภาพได้แม่นยำมากขึ้น
2. การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance): AI และ ERP สามารถคาดการณ์การเสื่อมสภาพของเครื่องจักรและเตือนก่อนที่จะเกิดความเสียหาย ทำให้สามารถบำรุงรักษาเครื่องจักรได้ก่อนที่จะเกิดปัญหา ลดเวลาการหยุดทำงานของเครื่องจักรและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
3. การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management): AI และ ERP สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการใช้วัสดุและการผลิต เพื่อให้การจัดการสินค้าคงคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาการขาดแคลนวัสดุหรือการมีวัสดุเกินความต้องการ
4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ (Enhanced Decision Making): การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ ERP สามารถช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจที่มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและมีความสมบูรณ์
5. การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง (Adaptability to Changes): AI และ ERP สามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานและการดำเนินงานให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดหรือสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
6. การเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Improved Product Quality): AI และ ERP สามารถตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ และระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันทีและเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์
7. การประหยัดต้นทุน (Cost Savings): การใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ และการจัดการสินค้าคงคลัง สามารถลดต้นทุนในการผลิตและดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ
การเชื่อมต่อ AI กับระบบ ERP เป็นการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ระบบ PlanetOne ERP ระบบอีอาร์พีของคนไทย สามารถเชื่อมเข้ากับ AI ในเครื่องจักร เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ต้นทุน ลดข้อผิดพลาดและเวลาในการทำงาน Click เพื่อเข้าสู่หน้า Package Review